ดูเหมือนว่าหนึ่งในจักรวาลหนังที่น่าจะยังพอหาลู่ทางไปได้เรื่อย ๆ เพราะอย่างน้อย ๆ ก็รู้วิธีหากินกับพวกติ่งกับแฟนพันธุ์แท้อสุรกายในตำนานได้ค่อนข้างตรงจุด ทำให้การกลับมาครั้งนี้ของ “Godzilla x Kong: The New Empire ก็อดซิลลาปะทะคอง 2 อาณาจักรใหม่” เป็นเหมือนการเติมเต็มและเซอร์วิสแฟนหนังมากยิ่งขึ้น เป็นฉบับปรับปรุงที่น้อมรับคำติชมจากภาคก่อนไปพัฒนา แม้ว่ากลิ่นอายมันจะออกไปทางจักร ๆ วงศ์ ๆ ฉบับอสูรยักษ์ไปหน่อย
‘Godzilla x Kong: The New Empire’ นั้น เป็นภาพยนตร์ ‘Godzilla’ เรื่องที่ 2 จะเข้าฉายในปี 2024 นี้ ถัดจาก ‘Godzilla Minus One’ ของญี่ปุ่น ที่เล่าเรื่องแยกออกจากภาพยนตร์ ‘Godzilla’ เวอร์ชันฮอลลีวูดอย่างสิ้นเชิง โดยเน้นที่ความน่ากลัวและคลาสสิกเหมือนกับภาพยนตร์ต้นฉบับ
Godzilla x Kong: The New Empire ได้เล่าเรื่องราวสานต่อจากภาคก่อน หลังจากที่มีการค้นพบฮอลโลว์เอิร์ธ มิติอาณาจักรที่แอบซ่อนอยู่บนโลก และคองได้ปลีกตัวไปอาศัยอยู่ที่โลกใหม่ เพื่อหวังว่าจะตามหาเผ่าพันธุ์ของตัวเอง แต่กลับพบภัยคุกคามครั้งใหม่ ที่มีความเชื่อมโยงถึงประวัติศาสตร์อันลึกลับของโลกในอดีต ที่ทำให้คองไม่สามารถต่อสู้ได้เพียงลำพัง ต้องผนึกกำลังกับ ก็อดซิลลา คู่ปรับที่ต้องพักยกกันชั่วคราว
“อดัม วิงการ์ด” ยังคงกลับมารับหน้าที่สานต่อความสำเร็จของเขาอีกครั้ง จึงเป็นข้อดีที่ทำให้หนังไม่มีรอยต่อและรอยสะดุดใด ๆ มากวนใจ สามารถลุยเล่าเรื่องได้อย่างเหมาะเจาะในแบบที่ควรจะเป็น ซึ่งแน่นอนว่างานสร้างในภาคนี้ยังเน้นความอลังการเหมือนเคย อาจจะไม่ได้วินาศสันตะโรถล่มเมืองแบบภาคก่อน แต่เน้นการสร้างโลกใบใหม่ของอาณาจักรฮอลโลว์เอิร์ธ ที่ก็ทำให้เราชวนนึกไปถึงพวกหนังผจญภัยดัง ๆ แบบ Jurassic World หรือ Indiana Jones อยู่บ้าง
Godzilla x Kong: The New Empire ภาคนี้ถือว่าเปลี่ยนทีมเขียนบทใหม่ทั้งหมด โดยได้ “เทอรี รอสซิโอ” (จากหนังชุด Pirates of the Caribbean), “ไซมอน บาร์เร็ตต์” (จาก V/H/S/94) และ “เจอเรมี สลาเตอร์” (จาก Fantastic Four เวอร์ชันปี 2015) ที่นับว่าเป็นการฟอร์มทีมผสมผสานตามความถนัดที่โดดเด่นของแต่ละคน ในแง่บทหนังก็คือไม่มีอะไรแปลกใหม่นัก โทนก็คือหนังแอคชันผจญภัยที่ใช้กันเกลื่อนทั่วไป แต่โชคดีที่จังหวะการเล่าเรื่องกับพล็อตเส้นเรื่องธรรมดา ๆ ของหนังนั้น พอจะช่วยพยุงเอาไว้ได้บ้าง
คงจะต้องบอกว่า Godzilla x Kong: The New Empire บันเทิงได้เพราะการขับเคลื่อนและแนวคิดสร้างสรรค์ในตัวละครหลักจริง ๆ และก็เหมือนเคย พาร์ทตัวละครมนุษย์ยังจืดชืดและเป็นเพียงองค์ประกอบที่เกินจำเป็นเหมือนกับภาคก่อน ๆ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าภาคนี้ผู้สร้างน่าจะตั้งใจลดทอนพาร์ทนี้ลงไปอีกพอสมควร แล้วมาเพิ่มปริมาณพาร์ทของเหล่าอสุรกายที่เป็นพระเอกหลักของเรื่องแทน นั่นนับว่าเป็นการเซอร์วิสที่แจ่มไม่เบา
แต่เมื่อลองลงในรายละเอียดดี ๆ แล้ว ก็กลับพบว่า Godzilla x Kong: The New Empire แทบจะไม่ต่างจากพวกหนังแฟรนไชส์ที่ขายซีจีและมาเพื่อเอาใจแฟนคลับโดยเฉพาะ ซึ่งเนื้อแท้ของหนังนั้นก็แทบจะไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ พล็อตจำเจที่เคยเห็นบ้างแล้วจากหนังเรื่องอื่น ได้ถูกหยิบนำมาใช้เต็มไปหมด การปูเรื่องก็กินเวลานานไปหน่อย ใส่ข้อมูลและเรื่องราวการสำรวจโลกใบใหม่ที่ประดาประดังเต็มไปหมด แอบเห็นปฏิกิริยาคนดูเหมือนกันว่าพอผ่านไปได้สัก 40 นาทีแรก เริ่มมีพฤติกรรมแอบหยิบโทรศัพท์มากดดูกันประปราย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคนิคงานสร้างและงานซีจีต่าง ๆ ในหนังเรื่องนี้ทำออกมาได้วิเศษจริง ๆ อาจจะยังไม่ใช่งานที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็สร้างความตระการตาให้กับผู้ชมได้ดี เล่นละเลงไปทั้งเรื่องจนเกือบจะถึงว่ามานั่งดูหนังแอนิเมชันไปเสียแล้ว โชคดีที่ยังมีพาร์ทการแสดงของมนุษย์มาคั่นอารมณ์หน่อย แต่ก็อดคิดไม่ได้เลยว่าหนังภาคนี้มีจังหวะที่คล้าย ๆ กับแฟรนไชส์ Planet of the Apes อยู่ไม่น้อย จึงรู้สึกเหมือนดูอะไรที่เดิม ๆ ซ้ำ ๆ แต่ยังพอมีอะไรดูที่แตกต่างได้อยู่บ้าง และโชคดีที่เรื่องนี้ได้ฉายก่อน Kingdom of the Planet of the Apes ที่กำลังจะมาฤดูร้อนปีนี้ด้วย
แน่นอนว่าพระเอกของเรื่องก็คือ ก็อดซิลลา กับ คอง ที่ภาคนี้อาจจะเน้นซีนไปที่คองมากกว่า โดยใช้เขาทำหน้าที่เป็นตัวเดินเรื่องเป็นเสียส่วนใหญ่ (ซึ่งมันก็ค่อนข้างซ้ำ ๆ กับหนังตระกูล Apes ว่าไหม?) พลอยทำให้พี่ก็อดซิลลาของเรา กลายเป็นพระเอกส่วนเสริมไป แต่ไม่ว่าจะโผล่ออกมาฉากไหนก็ทรงพลังและเท่อยู่เสมอ ๆ ซ้ำยังมีตัวละครใหม่ ๆ และตัวขโมยซีนที่เผลอมาทำให้คนดูได้หลงรักอีกด้วย
ในพาร์ทของนักแสดงนั้น ต้องสารภาพตรง ๆ ว่าค่อนข้างประดักประเดิดอยู่พอประมาณ พอที่องค์ประกอบที่ถูกลดบทบาทลงในหนังเรื่องนี้ มันกลายออกมาเป็นส่วนเสริมที่ค่อนข้างชวนขัดใจขัดอารมณ์อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ถึงการแสดงของ “รีเบคกา ฮอลล์”, “ไบรอัน ไทรี เฮนรี”, “แดน สตีเวนส์” หรือ “น้องเคย์ลี” จะทำออกมาได้ตามมาตรฐาน แต่บทการรับส่งต่อบทกันของพวกเขานั้น มันค่อนข้างออกมาในจังหวะที่แปลก ๆ ไปตลอดทั้งเรื่องอย่างสัมผัสได้
ดังนั้นโดยสรุปในภาพรวมแล้ว Godzilla x Kong: The New Empire ก็ยังคงเป็นการสานต่อจักรวาลมอนสเตอร์ที่หาทางรอดไปได้อีกหนึ่งภาค ในแง่ความสนุก ความมันส์ และความบันเทิง หนังยังคงตอบโจทย์ได้ดี แต่ก็เหมือนกับว่าหนังยังคงห้อยโหนขึ้นไปบนบาร์ที่สูงยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ เข้าสู่สำนานที่ว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาว ซึ่งก็กำลังคิด ๆ อยู่เหมือนว่าหนังจะหามุกไหนมาสานต่อได้อีกในภายภาคหน้า ทั้งที่ห้อยโหนมาไกลถึงขนาดนี้แล้ว
ช่วง 40 นาทีสุดท้ายของ Godzilla x Kong: The New Empire ก็คือการเซอร์วิสแฟนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ผู้สร้างจัดเต็มในสิ่งที่ผู้ชมอยากจะเห็น ถึงมันจะเป็นอารมณ์จักร ๆ วงศ์ ๆ แบบไอ้ต้าวอสูรยักษ์ไปหน่อย แต่จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในไคลแม็กซ์ที่เต็มอรรถรสดีไม่น้อย แม้จะเสียดายที่ช่วงแรก ๆ และการปูทางของหนังเต็มไปด้วยข้อมูลที่อาจจะไม่เข้าหัวผู้ชมเท่าไหร่ มันเป็นแค่กิมมิกเก่า ๆ ที่หยอดใส่เข้ามา เลยเป็นจุดที่ชวนผลักหนังออกจากคนดูไปได้ระดับ กว่าจะกลับจูนติดได้ในช่วงท้าย
+ There are no comments
Add yours